ชาวรังสิตโล่งใจ น้ำประปาเพียงพอแล้ว (การประปาส่วนภูมิภาค)

    จากประเด็นปัญหากำลังผลิตน้ำประปาไม่พอเพียง ทำให้ประชาชนที่อยู่ปลายท่อได้รับผลกระทบน้ำไม่ไหลหรือไหลอ่อนมาตั้งแต่หน้าแล้งที่ผ่านมานั้น หลังจากที่ กปภ.เช่าระบบผลิตน้ำแบบเคลื่อนที่ (Mobile Plant) เนื่องจากติดตั้งเร็วควบคู่กับการปรับปรุงระบบให้สามารถรับซื้อน้ำจากเอกชนวันละ 20,000 ลบ.ม. ทำให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวมีน้ำประปาใช้อย่างเพียงพอแล้ว

    นายนคร จิรเศวตกุล รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ 4) รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. เปิดเผยว่า จากการที่ชุมชนรังสิตเติบโตเร็วมากในขณะที่โรงกรองน้ำใหม่ก่อสร้างไม่ทันนั้น กปภ. ได้เร่งรัดแก้ไขปัญหาน้ำประปาไม่เพียงพอสำหรับชุมชนปลายท่อดังกล่าว โดยแบ่งงานออกเป็น 4 ระยะ คือ ระยะแรก ติดตั้งระบบผลิตน้ำประปาแบบเคลื่อนที่ขนาดกำลังผลิต 6,000 ลบ.ม./วัน ที่บริเวณถนนเลียบคลอง 13 อ.ลำลูกกา โดยใช้แหล่งน้ำดิบจากคลองรพีพัฒน์ ซึ่งปัจจุบันแล้วเสร็จสามารถจ่ายน้ำให้แก่ชาวรังสิตตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา ระยะสอง ให้บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด ผลิตน้ำเพิ่มในพื้นที่ของสำนักงานประปารังสิตอีก 20,000 ลบ.ม./วัน แล้วเสร็จภายในปี 2549 ระยะสาม ก่อสร้างระบบผลิตใหม่ขนาด 50,000 ลบ.ม./วัน ที่บริเวณคลอง 13 แล้วเสร็จประมาณกลางปี 2550 และ ระยะสุดท้าย ให้บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด เพิ่มกำลังผลิตอีก 50,000 ลบ.ม./วัน แล้วเสร็จประมาณกลางปี 2551

    ล่าสุด นอกจากระบบผลิตน้ำประปาแบบเคลื่อนที่ (Mobile Plant) สามารถผลิตจ่ายน้ำเพิ่มขึ้น 6,000 ลบ.ม./วัน แล้ว สำนักงานประปารังสิต ยังสามารถซื้อน้ำประปาจากเอกชนเพิ่มขึ้นอีก 20,000 ลบ.ม./วัน ตามโครงการแก้ไขปัญหาน้ำประปาไม่เพียงพอในระยะสองภายในกลางเดือนตุลาคม 2549 ซึ่งจะมีผลให้ชาวรังสิตที่อาศัยอยู่บริเวณปลายท่อดังกล่าวมีน้ำประปาใช้อย่างเพียงพอและทั่วถึง

    นายนคร จิรเศวตกุล กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับโครงการก่อสร้างระบบผลิตใหม่ที่บริเวณเลียบคลอง 13 ซึ่งเป็นโครงการระยะที่สามนั้นมีความก้าวหน้ามาก โดยขณะนี้กำลังเร่งรัดวางท่อส่งน้ำเพิ่มเติมไปยังผู้ใช้น้ำที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ถนนเลียบคลอง 13 และเลียบถนนลำลูกกาตั้งแต่คลอง 8 - 13 ด้วย คาดว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จเร็วกว่าแผนสามารถรองรับผู้ใช้น้ำซึ่งจะมีเพิ่มขึ้นอีก