นโยบายและแนวปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2564
โดยที่เป็นการสมควรกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบและเข้าใจนโยบายและแนวปฏิบัติของการประปาส่วนภูมิภาคเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 ประกอบกับมาตรา 23 (2) แห่งพระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค .พ.ศ. ๒๕๒๒ การประปาส่วนภูมิภาคจึงออกประกาศกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไว้ ดังต่อไปนี้
ด้วยเทคโนโลยีและระบบสื่อสารได้พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วทำให้การเข้าถึงการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล สามารถทำได้โดยง่าย สะดวก และรวดเร็ว อันอาจนำมาซึ่งความเดือดร้อนรำคาญ หรือความเสียหายให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data.Privacy) ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานสำคัญในความเป็นส่วนตัว (Privacy.Right) ตามหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights) และตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้บัญญัติรับรองและคุ้มครองไว้ เพื่อให้การปฏิบัติงานของ กปภ.. เป็นไปตามมาตรฐานสากล ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบและถือปฏิบัติต่อไป
นโยบายและแนวปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้มีขอบเขตการบังคับใช้ครอบคลุมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่ดำเนินการโดย กปภ. รวมถึงบุคคลใดๆ ซึ่งล่วงรู้ข้อมูล ส่วนบุคคลเนื่องจากเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของ กปภ. จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย รวมทั้งนโยบาย และแนวปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ใช้บังคับ กปภ. จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม โดยการเปิดเผย และการดำเนินการอื่นที่ไม่ใช่การเก็บรวบรวม และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น กปภ. จะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒
“ข้อมูล” หมายความว่า สิ่งที่สื่อความหมายให้รู้เรื่องราว ข้อเท็จจริง ข้อมูลหรือสิ่งใดๆ ไม่ว่าการสื่อความหมายนั้นจะทำได้โดยสภาพของสิ่งนั้นเอง หรือโดยผ่านวิธีการใดๆ และไม่ว่าจะได้จัดทำไว้ในรูปแบบของเอกสาร แฟ้ม รายงาน หนังสือ แผนผัง แผนที่ ภาพวาด ภาพถ่าย ฟิล์ม การบันทึกภาพ หรือเสียง การบันทึกโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือวิธีอื่นใดที่ทำให้สิ่งที่บันทึกไว้ปรากฏได้
“บุคคล” หมายความว่า บุคคลธรรมดา
“คณะกรรมการ”.หมายความว่า คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลที่ข้อมูลนั้นสามารถระบุตัวตนไปถึงได้
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น
- ชื่อ - นามสกุล
- เลขประจำตัวประชาชน เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต และหมายเลขผู้ใช้น้ำประปา
- อยู่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์
- ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือและข้อมูลบันทึกต่างๆ ที่ใช้ติดตามตรวจสอบกิจกรรมต่างๆ ของบุคคล เช่น IP Address, MAC Address, Cookie, User ID และ Log File เป็นต้น
- ข้อมูลระบุทรัพย์สินของบุคคล เช่น โฉนดที่ดิน เป็นต้น
- ข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงกับข้อมูลอื่น ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เช่น วันเกิด สถานที่เกิด เชื้อชาติ สัญชาติ น้ำหนัก ส่วนสูง ข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ (Location) ข้อมูลทางการแพทย์ ข้อมูลการศึกษา ข้อมูลทางการเงิน และข้อมูลการจ้างงาน เป็นต้น
- ข้อมูลการประเมินผลการปฏิบัติงานหรือความเห็นของผู้บังคับบัญชาต่อพนักงานหรือลูกจ้าง
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายความว่า ข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของส่วนบุคคล เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน ตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
“ข้อมูลชีวภาพ” หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิคหรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพหรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ เป็นต้น
“การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจอันเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
“เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ผู้ที่ได้รับมอบหมายหรือแต่งตั้งจาก กปภ. ให้มีหน้าที่ให้คำแนะนำและตรวจสอบการดำเนินงาน ประสานงาน และให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
กปภ. จะจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน ผู้สมัครงาน ลูกจ้าง และคู่ค้าของ กปภ. รวมถึงผู้ซึ่งได้รับความยินยอมให้ปฏิบัติงานหรือทำประโยชน์ให้แก่ กปภ. หรือในสถานประกอบกิจการของ กปภ. ไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไรก็ตาม โดยมีแหล่งที่มา หลักการ และวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
- 4.1 แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
- 4.1.1 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยตรงจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากการกรอกข้อมูลส่วนบุคคลผ่านเอกสารและ/หรือแบบฟอร์มต่างๆ และ/หรือการตอบแบบสอบถาม (Survey) ของ กปภ. หรือการเข้าใช้งานผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือระบบเว็บไซต์ของ กปภ.
- 4.1.2 เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง เช่น การสืบค้นข้อมูลส่วนบุคคลผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือระบบเว็บไซต์หรือสอบถามจากบุคคลที่สามโดย กปภ. จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยเร็วที่สุดไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันที่ กปภ. เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งดังกล่าว รวมถึงจะดำเนินการขอความยินยอมในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ เป็นกรณีที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมหรือแจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด
- 4.2 วัตถุประสงค์และหลักการในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
- 4.2.1 กปภ. จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น เช่น เพื่อประโยชน์ในการให้บริการ เพื่อปรับปรุงคุณภาพการให้บริการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเพื่อบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลของ กปภ. โดย กปภ. จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหรือขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้ กปภ. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม
- 1. เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัย หรือสถิติ โดย กปภ. จะจัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- 2. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
- 3. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญา
- 4. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
- 5. เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- 6. เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของ กปภ.
- 4.2.2 กปภ. จะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เว้นแต่ได้รับ ความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยชัดแจ้งเท่านั้นหรือได้รับยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด
- 4.2.3 การให้บริการทางเว็บไซต์ของ กปภ. อาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลการเข้าออกเว็บไซต์โดยระบบอัตโนมัติ เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์และติดตามการใช้บริการทางเว็บไซต์ และการตรวจสอบย้อนหลังในกรณีที่เกิดปัญหาการใช้งาน
- 4.2.4 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ กปภ. จะดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด
- 4.2.1 กปภ. จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น เช่น เพื่อประโยชน์ในการให้บริการ เพื่อปรับปรุงคุณภาพการให้บริการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเพื่อบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลของ กปภ. โดย กปภ. จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหรือขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้ กปภ. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม
การใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล กปภ. จะดำเนินการตามวัตถุประสงค์และหลักการที่สอดคล้องตามข้อ 4.2 วัตถุประสงค์และหลักการในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดย กปภ. อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นอย่างจำกัดให้แก่หน่วยงานหรือบุคคลภายนอก เช่น
- คู่ค้า คู่ความร่วมมือ และพันธมิตรในการประกอบกิจการของ กปภ.
- หน่วยงานของรัฐซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรมสรรพากร กรมบังคับคดี ศาล หรือสำนักงานอัยการ
กปภ. จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลา ดังต่อไปนี้
- 6.1 ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดเกี่ยวกับการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ เช่น พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และประมวลรัษฎากร เป็นต้น
- 6.2 ในกรณีที่กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ กปภ. จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นต่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ
เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาดังกล่าว กปภ. จะลบ ทำลาย หรือ ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคล เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
กปภ. จะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการโจรกรรมหรือการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล การสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจหรือโดยขัดต่อกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย และวิธีปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศของ กปภ.
ในกรณีที่ กปภ. มอบหมายให้หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลแทน กปภ. เช่น การวิเคราะห์เชิงสถิติ ฯลฯ กปภ. จะจัดให้มีข้อตกลงระหว่างกันเพื่อควบคุมการดำเนินงานตามหน้าที่ของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยกำหนดให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นความลับและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงป้องกันมิให้นำข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเพื่อการอื่นใดโดยไม่มีอำนาจหรือโดยขัดต่อกฎหมาย
- 8.1 สิทธิในการขอเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ความยินยอมไว้กับ กปภ. ได้ตลอดระยะเวลา อย่างไรก็ดี การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
- 8.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนโดยสามารถแจ้งให้ กปภ. ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงมีสิทธิขอให้ กปภ. เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอม
- 8.3 สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Data Portability) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ขอให้ กปภ. ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น เมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติและขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ กปภ. ส่งหรือโอนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง
- 8.4 สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Erasure) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้ กปภ. ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของตนหากพบว่าไม่มีความจำเป็นที่จะเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอมแล้ว และ กปภ. ไม่มีอำนาจที่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไป หรือในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและ กปภ. ไม่สามารถอ้างเหตุปฏิเสธการคัดค้านนั้นได้ หรือในกรณีที่การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
- 8.5 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restriction of Processing) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ในระหว่างรอการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ได้ร้องขอให้แก้ไขข้อมูลดังกล่าวให้ถูกต้องหรือขอให้ระงับการใช้แทนการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลหรือระหว่างการพิสูจน์ของ กปภ. เพื่อปฏิเสธการคัดค้านของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- 8.6 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ กปภ. อ้างฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ กปภ. หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ กปภ. เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
- 8.7 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้ กปภ..แก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
- 8.8 สิทธิในการร้องเรียน (Right to file a Complaint) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ กปภ. ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือประกาศที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว
กปภ. จะจัดให้มีช่องทางเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อมายัง กปภ. เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอตามสิทธิข้างต้น ในกรณีที่ กปภ. ปฏิเสธคำร้องขอข้างต้น กปภ. จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ
กปภ. ขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำร้องขอตามข้อ 8 ในกรณีดังต่อไปนี้
- 9.1 กฎหมายกำหนดให้สามารถดำเนินการได้
- 9.2 ข้อมูลส่วนบุคคลถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
- 9.3 ผู้ยื่นคำร้องไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือเป็นผู้มีอำนาจในการยื่นคำร้องขอดังกล่าว
- 9.4 คำร้องขอดังกล่าวไม่สมเหตุสมผล เช่น กรณีที่ผู้ร้องขอไม่มีสิทธิตามกฎหมาย หรือไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ที่ กปภ. เป็นต้น
- 9.5 คำร้องขอดังกล่าวเป็นคำร้องขอฟุ่มเฟือย เช่น เป็นคำร้องขอที่มีลักษณะเดียวกันหรือมีเนื้อหาเดียวกันซ้ำๆ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นต้น
กปภ. จะปรับปรุงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายและการดำเนินงานของ กปภ. รวมถึงอาจปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดย กปภ. จะประกาศแจ้งให้ทราบอย่างชัดเจนก่อนจะเริ่มดำเนินการหรืออาจส่งประกาศแจ้งเตือนให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยตรงตามช่องทางการสื่อสารของ กปภ.
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถแสดงความคิดเห็นและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงการขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้อ 8 ได้ที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามรายละเอียดดังนี้
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ที่อยู่ การประปาส่วนภูมิภาค สำนักงานใหญ่
เลขที่ 72 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210
เว็บไซต์ https://www.pwa.co.th
PWA Contact Center 1662 หรือ E-mail Address : DPO@pwa.co.th