17 กุมภาพันธ์ 2549
มท.3 ร่วม กปภ. แก้ไขปัญหาความไม่เข้าใจของพนักงานที่หวั่นวิตกว่า จะเป็นขายกิจการประปา โดยได้เลื่อนการลงนามสัญญาออกไป 1 เดือน ย้ำเท่าที่กำกับดูแล กปภ. 1 ปี พบว่า พนักงาน กปภ. เป็นคนมีเหตุผลและให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ
นายสมชาย สุนทรวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง กรณีพนักงานสำนักงานประปาระยองได้เคลื่อนไหวให้ กปภ. พิจารณาทบทวนโครงการจ้างเอกชนผลิตน้ำประปาขายเหมาจ่ายให้แก่สำนักงานประปาระยอง โดยตั้งประเด็นสงสัยว่าจะเป็นการขายกิจการประปานั้น ขอเรียนว่า จากการดูข้อมูลที่ กปภ. ได้ประกาศเชิญชวนเอกชนผลิตน้ำประปาขายให้แก่สำนักงานประปาระยองที่เริ่มตั้งแต่ปลายปี 2547 ควบคู่กับรายละเอียดในสัญญาซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดได้ตรวจร่างแล้ว พบว่าเป็นสัญญาที่ กปภ. ได้ประโยชน์ โดยบริษัท ยูยู จะต้องเป็นผู้ลงทุนในระบบผลิตทั้งหมด และต้องโอนทรัพย์สินให้เป็นกรรมสิทธิ์ของ กปภ. ทันทีที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ รวมทั้งเป็นผู้รับภาระในการจัดหาและจัดส่งน้ำดิบ เพื่อผลิตแล้วขายให้แก่ กปภ. ทั้งนี้ จะต้องรับผิดชอบในการบำรุงรักษาและปรับปรุงระบบท่อส่งน้ำจนถึงหน้ามิเตอร์น้ำของลูกค้า อีกทั้งยังต้องรับผิดชอบการลดน้ำสูญเสียให้เหลือน้อยกว่า 20% อีกด้วย นอกจากนั้น ในสัญญาฯบริษัทฯยังต้องอ่านมาตรพร้อมจัดพิมพ์และส่งใบแจ้งหนี้ โดยสำนักงานประปาระยองเป็นผู้เก็บค่าน้ำประปาเอง สำหรับพนักงานของสำนักงานประปาระยองที่เดิมมีหน้าที่ผลิตน้ำ กปภ. ก็จะยังคงเป็นพนักงาน กปภ. เช่นเดิม เนื่องจาก กปภ. มีพนักงานน้อยมากอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้ กปภ. ไปทำความเข้าใจกับพนักงานประปาระยองโดยยึดหลักเหตุผล เพราะมั่นใจว่าพนักงาน กปภ. เป็นคนของรัฐที่ยึดประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว
นายประเสริฐ เชื้อพานิช ผู้ว่าการ กปภ. กล่าวว่า ประเด็นที่พนักงานสำนักงานประปาระยองคัดค้านการจ้างเอกชนผลิตน้ำประปาขายให้แก่สำนักงานประปาระยองนั้น น่าจะเกิดจากความเข้าใจไม่ครบทุกด้าน ซึ่งขณะนี้กำลังทำความเข้าใจกับพนักงาน โดยเฉพาะเรื่องความเชื่อมั่นเกี่ยวกับหน้าที่การงานของพนักงานที่ทำงานอยู่ในกระบวนการผลิต ซึ่งพนักงานทุกคนจะยังคงเป็นพนักงาน กปภ. หากไม่สมัครใจไปอยู่กับบริษัทฯสำหรับการเลื่อนเซ็นสัญญาออกไป 1 เดือนนั้น อาจส่งผลกระทบให้การปรับปรุงโรงกรองล่าช้าไปอีก 1 เดือน แต่เพื่อความสบายใจของพนักงานก็เป็นเรื่องที่มองข้ามไปไม่ได้