07 พฤศจิกายน 2548
นายพิเชษฐ สถิรชวาล ประธานคณะกรรมการ กปภ. เผยผลการดำเนินงานภายหลัง กปภ. จัดทำ CAMPAIGN รณรงค์ประชาสัมพันธ์โครงการหยุดวิกฤติแผ่นดินทรุดในพื้นที่ จ.นครปฐมและสมุทรสาคร พบว่า ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนมาใช้น้ำประปาผิวดินแทนการใช้น้ำบาดาลเพิ่มขึ้น
นายพิเชษฐ สถิรชวาล ประธานคณะกรรมการ กปภ. เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ กปภ. จัดระบบน้ำประปาผิวดิน เพื่อแก้ปัญหาแผ่นดินทรุดในพื้นที่ กทม. และปริมณฑลนั้น ภายหลังจากที่ กปภ. ได้ดำเนินการติดตั้งวางท่อส่งน้ำผิวดินเข้าไปในพื้นที่รับผิดชอบของ กปภ. ใน จ.นครปฐม และ จ.สมุทรสาคร รวมทั้งได้จัดกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่องเพื่อเชิญชวนผู้ประกอบการและประชาชนในบริเวณพื้นที่ที่มีท่อประปาผิวดินผ่านแล้วให้หันมาใช้น้ำประปาผิวดินเพื่อช่วยกันคืนสมดุลให้แผ่นดิน ปรากฏว่า ขณะนี้มีผู้ใช้น้ำประเภทบ้านพักอาศัยและธุรกิจขนาดเล็กได้มาขอติดตั้งประปาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีผู้ประกอบการประเภทอุตสาหกรรมและธุรกิจขนาดใหญ่มาขอติดตั้งประปาแล้วจำนวน 658 ราย โดยมีอัตราการใช้น้ำประปาผิวดิน 31.91 % ของปริมาณการใช้น้ำจริง แต่ยังคงเหลือผู้ประกอบการอีก 513 ราย ที่ยังไม่ได้ทำการติดตั้งประปา จึงขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ในพื้นที่ดังกล่าวที่ยังไม่ได้ขอติดตั้งประปาหรือติดตั้งประปาแล้วแต่ยังคงใช้น้ำบาดาลอยู่ ช่วยกันให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และรักษาสมดุลทางธรรมชาติ เพราะถ้าหากนำน้ำบาดาลมาใช้มากเกินไปจนธรรมชาติทดแทนไม่ทัน อาจจะทำให้น้ำเค็มไหลเข้าทดแทนน้ำบาดาลในแต่ละชั้นน้ำได้ ซึ่งการจะทำให้กลับคืนสู่สภาพดั่งเดิมนั้น ต้องใช้เวลานานหลายสิบปี ประกอบกับปัจจุบันหากผู้ประกอบการใช้น้ำบาดาลจะต้องเสียค่าน้ำในอัตรา ลบ.ม.ละ 14.50 บาท โดยแบ่งเป็นอัตราค่าน้ำบาดาลราคา ลบ.ม.ละ 8.50 บาท และค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลราคา ลบ.ม.ละ 6.00 บาท และนับจากปี 2549 เป็นต้นไป ค่าน้ำบาดาลที่ผู้ประกอบการจะต้องจ่ายจะขยับขึ้นเป็นอัตรา ลบ.ม.ละ 15.50 บาท จนถึง 17.00 บาท ทั้งนี้ไม่รวมค่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการสูบน้ำบาดาลประมาณ ลบ.ม.ละ 1 บาท และค่าลงทุนในการเจาะบ่อบาดาล
นอกจากนี้ จากการออกเยี่ยมผู้ประกอบการที่ได้ปรับเปลี่ยนมาใช้น้ำประปาแล้ว สามารถยืนยันได้ว่าการใช้น้ำประปาผิวดินจะช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนในส่วนอื่นๆ ตลอดจนลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภัณฑ์ของโรงงานที่เสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วอันเนื่องจากการใช้น้ำบาดาลที่มีคุณภาพแย่ลง รวมทั้งสามารถประหยัดค่าสารเคมี และค่าแรงพนักงานที่จ้างเพื่อทำการผลิตน้ำใช้เองอีกด้วย