24 กันยายน 2548

การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เตรียมพร้อมรับมือปัญหาขาดแคลนน้ำของ จ.ภูเก็ต ด้วย มาตรการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว ภายหลังได้รับผลกระทบจากอุบัติภัยสึนามิเมื่อปี 2547
นายสมชาย สุนทรวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากอุบัติภัยสึนามิ ที่ส่งผลกระทบให้เกาะภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวน้อยลง ซึ่งขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งฟื้นฟูเกาะภูเก็ตให้มีความพร้อมทุกด้าน เพื่อจะดึงนักท่องเที่ยวกลับมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตอีกครั้งนั้น ในด้านน้ำประปา ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งในการสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว ได้มอบหมายให้การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เร่งดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำของจังหวัดภูเก็ต ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เนื่องจากสภาพปัญหาของเกาะภูเก็ตมีความใกล้เคียงกับเกาะสมุยคือขาดแคลนแหล่งน้ำดิบรองรับนักท่องเที่ยว ที่นิยมหลั่งไหลเข้าไปพร้อมๆกันในช่วงหน้าแล้ง
ดังนั้น นอกจากมาตรการระยะสั้น ซึ่ง กปภ.จะต้องวางท่อขนาด 500 มม. ความยาวประมาณ 17 กม. เพื่อส่งน้ำดิบจากขุมเหมืองม่าหนิกและฮิตเลอร์ จำนวนประมาณ 2 ล้านลบ.ม. มาเติมลงในขุมเหมืองสรรพสามิต เพื่อผลิตเป็นน้ำประปาที่โรงกรองน้ำบางวาด ในวงเงินลงทุน 75.814 ล้านบาท ซึ่ง กปภ.ได้ขอใช้งบเร่งด่วนจากรัฐบาลเพื่อดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2548 แล้ว กปภ. ยังต้องดำเนินการคู่ขนานในส่วนของมาตรการระยะปานกลาง คือ การซื้อน้ำประปาจากเอกชนที่ลงทุนก่อสร้างโรงผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืด ให้รองรับการใช้น้ำบริเวณหาดป่าตอง หาดกะตะ และหาดกะรน ควบคู่กับการซื้อน้ำประปาจากขุมเหมืองศรีสุชาติและขุมเหมืองเข้งหงวนอีกจำนวนวันละ 6,000 ลบ.ม. ให้รองรับการใช้น้ำบริเวณกะทู้ ฉลอง และหาดราไวย์ โดยเชื่อว่ามาตรการระยะสั้นและระยะปานกลาง จะรองรับการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2550
ส่วนมาตรการระยะยาวนั้น จะมีการต่อท่อส่งน้ำจากเขื่อนรัชชประภาเข้ามาที่ภูเก็ต เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำในอนาคต โดยมีประมาณการเบื้องต้น 4,000 ล้านบาท ซึ่งถึงแม้จะเป็นการลงทุนที่สูง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับการทำรายได้เข้าประเทศจากการท่องเที่ยวในเกาะภูเก็ตปีละไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ก็นับว่าคุ้มค่าในเชิงเศรษฐกิจและส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ
นายสมชาย สุนทรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับตอนเหนือของเกาะภูเก็ต กรมชลประทานจะก่อสร้างอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ ที่ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง ซึ่งจุน้ำได้กว่า 7 ล้าน ลบ.ม. และก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่จุน้ำได้กว่า 5 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งทั้ง 2 โครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2551 และจะสามารถรองรับการใช้น้ำของภูเก็ตตอนเหนือได้จนถึงปี 2558