02 กันยายน 2548

วันนี้ (2 ก.ย. 2548) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา) และคณะ ตรวจเยี่ยมการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) พร้อมมอบแนวนโยบายในการกำกับดูแล กปภ. โดยเน้นให้ความสำคัญกับเรื่องการบริหารจัดการและกักเก็บน้ำต้นทุน(น้ำดิบ) และการปรับองค์กรเป็นเชิงธุรกิจให้มากที่สุด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา) เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาอย่างมากในเรื่องของน้ำ ที่พบเห็นล่าสุดคือปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งเกิดขึ้นพร้อมกันในพื้นที่ใกล้เคียงกัน สภาพปัญหาเช่นนี้จะต้องบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่นจะทำอย่างไรให้สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดหาแหล่งน้ำดิบให้เพียงพอกับความต้องการ การวางแผนใช้น้ำในหน้าแล้ง โดยคาดว่าในอนาคตน้ำจะมีราคาแพงและมีความสำคัญกว่าน้ำมัน
การเดินทางมาตรวจเยี่ยม กปภ. ในครั้งนี้ ขอชมเชยว่า กปภ. เป็นหน่วยงานที่สามารถบริหารจัดการและพัฒนาบุคลากรที่มีอยู่ได้เป็นอย่างดี เมื่อเปรียบเทียบจำนวนพนักงานกับขอบเขตภารกิจที่กว้างขวาง ถือว่าสามารถสร้างผลงานได้มากกว่าที่คิด เพราะมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเรื่องระบบแผนที่ GIS ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการปฏิบัติงานเพื่อประชาชนของ กปภ.
สำหรับเรื่องการแปลงสภาพ กปภ. ขอทำความเข้าใจให้ตรงกันว่า เนื่องจากน้ำประปาเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ ดังนั้น ถึงแม้ว่า กปภ. จะต้องแปลงสภาพไปเป็นเอกชน แต่รัฐก็ยังกำกับดูแลเหมือนเดิม การแปลงสภาพจึงเป็นเพียงการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานจากระบบราชการไปเป็นระบบเอกชนเพื่อให้เกิดความคล่องตัว และเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนี้ การแปลงสภาพก็จะช่วยให้เกิดการแข่งขันและสามารถสร้างองค์กรให้เจริญเติบโตพร้อมที่จะรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในขณะที่น้ำต้นทุนหรือน้ำดิบมีน้อยลงทุกปี